ประหยัด Battery ตอนที่ 2 : ทำอย่างไรให้แบตเตอรี่หมดช้า [ละเอียด]

[Chewji]

สวัสดีจากวันอาทิตย์นะครับ มาถึงตอนที่ 2 แล้วนะครับกับเรื่องแบตเตอรี่ ในตอนนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิธีการต่างๆ ในการประหยัดแบตเตอรี่ แต่ละอย่างก็ส่งผลเพียงแค่เล็กน้อยเหมือนเดิม แต่พอทำตามทุกขั้นตอนแล้ว รับรองครับ เห็นความต่างอย่างแน่นอนอิอิ

ทำอย่างไรให้แบตเตอรี่หมดช้า

1. พกพา Power Bank

- งงล่ะสิครับอะไรเนี่ย ข้อแรกอยู่ๆมาบอกให้พก Power Bank แต่ Power Bank เดี๋ยวนี้ราคาถูกลงกว่าเมื่อก่อนมากมายและหาซื้อได้ง่าย และยังเป็นอะไรที่พกพาได้ง่าย และเห็นผลชัดที่สุดนะครับ

2. อย่าปรับแสงหน้าจอสว่างจนเกินไป

- ควรจะปรับหน้าแสงจอให้พอดีอย่าสว่างจนเกินไป หรือถ้าใครไม่รู้ว่าควรจะปรับเท่าไรควรเปิด Auto Brightness จะได้ไม่ต้องมานั่งปรับตลอดเวลานะครับ

3. ปรับลดความละเอียดหน้าจอลง

-  ถึงแม้ว่าจะทำให้ความละเอียดลดลงแต่ก็แลกมาด้วยแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานขึ้น

4. ใช้ Themes / Background สีดำหรือสีมืด(Dark or Black)

 - การใช้ Themes หรือ Background สีดำหรือสีมืด จะช่วยให้เราประหยัดพลังงานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นได้และยังช่วยให้เราสบายตาอีกด้วยครับ

5. เปิด Wifi/Bluetooth/NFC เฉพาะตอนที่ใช้งานเท่านั้น

- การเปิดทิ้งไว้โดยที่ไม่ได้ใช้งานจะทำให้เสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ ควรเลือกเปิดเฉพาะที่เราใช้งานหรือใช้งานบ่อยๆเท่านั้นนะครับ

6. ปรับ Location Method เป็น Battery saving 

- การปรับ Location เป็นโหมดประหยัดพลังงานก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้แบตเตอรี่ของเราหมดช้าลงนะครับ เพราะว่าระบบจะหาที่อยู่ของเราจาก Wi-Fi และ Mobile networks แทนการใช้ GPS โดยตรง

7. Battery Usage ผิดปกติบ้างหรือเปล่า

- ในส่วนของ Battery Usage โดยปกติแล้วหากมีการใช้งานสมาร์ทโฟนของเราเป็นประจำ สิ่งที่ควรจะใช้พลังงานมากที่สุดควรจะเป็น Screen แต่ถ้าหากว่าสิ่งที่ใช้พลังงานมากที่สุดเป็น Android System แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้วครับ

8. เปิดการใช้งาน Speed limiter (70% ของ CPU)

- การเปิดใช้งาน Speed limiter จาก Medium power saving mode เป็นการจำกัดการใช้งาน CPU ให้ใช้เพียงแค่ 70% จากความเร็วทั้งหมดนั้นเองครับ ดังนั้นสมาร์ทโฟนของเราก็จะใช้พลังงานลดลง และช่วยให้แบตเตอรี่อยุ่ได้นานขึ้น

9. ปิดการใช้งาน Always On Display

- การปิดใช้งาน Always On Display ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่ของเราอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ^^

10. ปิดการใช้งาน Sync

- การปิดใช้งาน Sync ก็ช่วยให้แบตเตอรี่อยู่นานขึ้นเหมือนกันครับ ^^

11. ตรวจสอบ Running services บ้าง

- การตรวจสอบ Running services จะทำให้เรารู้ว่าแอปพลิเคชันใดที่กำลังใช้งานสมาร์ทโฟนของเราอยู่บ้าง และถ้าหากมีการใช้งานจากแอปพลิเคชันที่เราไม่รู้จักก็ให้ทำการลบทิ้งไปเลยครับ

- วิธีการดู ให้ดูในข้อที่ 2. จาก -> https://bit.ly/2GrsWwp

- วิธีการเปิด Developer Options -> https://bit.ly/2S3Aifh 

12. อย่าติดตั้ง Applications ช่วยประหยัดแบตเตอรี่

- การติดตั้งแอปพลิเคชันที่มีการรับประกันว่าจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ ส่วนมากแอปพลิเคชันเหล่านี้ จะคอยทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อคอยเปิด-ปิด options ต่างๆ และการที่มันสั่งการเปิดปิดโดยทำงานอยู่เบื้องหลังนี้เอง มันจึงใช้พลังงานค่อนข้างมาก

13. Calibrate Battery บ้าง

- การ Calibrate Battery ก็คือการ reset แบตเตอรี่นั้นเอง โดยผมแบ่งขั้นตอนง่ายๆเป็น 4 ขั้นตอนดังนี้ครับ

1. ถอดสายชาร์จออกและใช้สมาร์ทโฟนของเราให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงจนเหลือ 0% จากนั้นพยายามเปิดเครื่องจนกว่าจะไม่สามารถเปิดได้

2. เสียบสายชาร์จ และชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% โดยไม่เปิดเครื่องเลย และ ไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ต้องเป็นสีเขียวเท่านั้น ย้ำนะครับ ไฟแสดงสถานะ LED ต้องเป็นสีเขียวเท่านั้น

3. เปิดเครื่องขึ้นมาและใช้งานปกติ

4. ทำแบบนี้ซ้ำ 2-3 รอบ

14. เปลี่ยน Battery  ซะเลย

- และคำถามก็คือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรเปลี่ยน Battery แล้วหรือยัง  คำตอบคือ ให้เช็คผ่าน applications Samsung Members ได้เลยครับ โดยไปที่ Samsung Members -> Get help -> Automatic checks 

ปล. และนี้ก็คือเคล็ดลับในการใช้สมาร์ทโฟนของเราให้ประหยัดแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น และถ้าชอบบทความแนวนี้อีกก็ช่วยกดถูกใจหรือใครมีเคล็ดลับอะไรก็มาแชร์ๆกันได้นะครับ ^^